วันเสาร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ข้อพิพาท เขาพระวิหาร เดือด SMS ยุคนเขมรแอนตี้สินค้าไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณด่านพรมแดนอรัญประเทศจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ยังคงมีชาวเขมรเข้ามาค้าขายในตลาดโรงเกลืออย่างต่อเนื่อง แต่บางตาลงกว่าทุกวัน ส่วนคนไทยเดินทางไปนครธม-นครวัดของกัมพูชา แทบไม่มีต่อมาได้เกิดกระแสปั่นป่วนขึ้นบริเวณหน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศ เนื่องจากมีพนักงานบ่อนกาสิโนชาวไทย พยายามสอบถาม จนท.ด่าน ตม.อรัญประเทศ ว่ากัมพูชาจะปิดด่านพรมแดนอรัญประเทศจริงหรือไม่ ซึ่งจนท.ได้แจ้งพนักงานฯดังกล่าวว่า ยังไม่มีคำสั่งใดๆ และยังไม่มีการปิดด่านใดๆทั้งสิ้น ซึ่งจากการสอบถามดังกล่าวทำให้ จนท.ต้องออกตรวจสอบเพื่อหาต้นตอของข่าวลือดังกล่าว ต่อมาพ.ท.เอกรัติ เมธาวัฒนานันท์ รองผบ.ฉก.กรม.ทพ.ที่ 12 กกล.บูรพา สั่งกาณให้ พ.ต.ศลิษฏพงษ์ แก้วพิลา ผบ.ร้อย ทพ.ที่ 1201 ฉก.กรม.ทพ.ที่ 12 กกล.บูรพา ทำการตรวจสอบหลังมีข่าวลือสพัดทั่วปอยเปต อ.โอวโจวโรว จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ซึ่งอยู่ตรงข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ของไทย ว่ามีใบปลิวและการส่งเอสเอ็มเอสทางโทรศัพท์มือถือมายังพ่อค้า แม่ค้า ชาวเขมรในตลาดโรงเกลือ และ พนักงานบ่อนกาสิโนชาวเขมร ให้ร่วมแอนตี้ประเทศไทย และจากการตรวจสอบพบว่ามีการส่งเอสเอ็มเอส.ทางโทรศัพท์มือถือของชาวกัมพูชาที่มาค้าขายในตลาดโรงเกลือ และ พนักงานบ่อนกาสิโนชาวกัมพูชาจริง โดยเป็นโทรศัพท์ที่ใช้ซิมของกัมพูชา ซึ่งข้อความใน เอสเอ็มเอส เป็นภาษาอังกฤษ เขียนว่า”

Akhmer love khmer , khmer help khmer try to cut off using and stop using thai products or any products print in thai language. We should not let this nation look down our people any more. If you are khmer or having khmer blood please pass this SMS to you khmer friends around the globe.”
แปลเป็นภาษาไทยว่า :
“เราเป็นชาวเขมรต้องรักเขมรด้วยกัน เขมรต้องช่วยเหลือเขมรด้วยกัน จงพยายามที่จะลดและเลิกใช้สินค้าไทยหรือสินค้าใดๆที่เป็นภาษาไทย เราไม่ควรที่จะให้คนไทยดูถูกเราอีกต่อไป
หากคุณเป็นชาวเขมรและมีสายเลือดเขมรจริง
กรุณาส่ง SMS ต่อไปยังเพื่อนๆชาวเขมร
หรือชาวเขมรทั่วโลกด้วย”
นายเลือน ยี อายุ 25 ปี พนักงานบ่อนกาสิโนฝั่งปอยเปต ชาวกัมพูชา เปิดเผยว่า เอสเอ็มเอสถูกส่งมายังพนักงานบ่อนชาวเขมร และบรรดาข้าราชการชาวเขมรทั่วทั้งปอยเปต นอกจากนี้จากการโทรศัพท์ไปสอบถามเพื่อนๆที่อยู่ในตลาดโรงเกลือ ส่วนใหญ่ก็ได้รับ เอสเอ็มเอส นี้เหมือนกัน เชื่อว่าเอสเอ็มเอสนี้ ถูกส่งต่อไปยังชาวกัมพูชาทั่วโลกแล้ว และยอมรับว่าเป็นการยุยงให้ชาวเขมร เลิกซื้อสินค้าไทยทั้งหมด และส่อให้เกลียดคนไทยด้วย ด้วยเหตุนี้ตั้งแต่ ช่วงเช้าในฝั่งปอยเปต ต่างมีกระแสข่าวลือออกมาว่า จะมีการปิดพรมแดนของกัมพูชา เนื่องจากอาจจะมีสงครามเกิดขึ้น ซึ่งข่าวลือดังกล่าว ทำให้ชาวเขมรบริเวณชายแดนบ้านปอยเปต และพ่อค้า แม่ค้าในตลาดโรงเกลือ ต่างแตกตื่นกลัวเกิดสงครามจริงบางคนรีบแจ้งให้ญาติที่มาค้าขายในตลาดโรงเกลือ ฝั่งไทยเก็บข้าวเก็บของออกจากตลาดโรงเกลือ กลับเข้าประเทศ ส่วนบรรยากาศตลาดโรงเกลือจากการตรวจสอบพบว่ามีร้านค้าชาวเขมรที่มาค้าขายในตลาดโรงเกลือหลายสิบร้านค้าต่างปิดร้าน บางรายขนข้าวขนของออกจากร้านใส่รถเข็นกลับเข้าฝั่งกัมพูชา ทำให้ภายในตลาดโรงเกลือ แลดูเงียบเหงา อีกทั้งนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวตลาดโรงเกลือน้อย ยิ่งทำให้ชาวเขมรจำนวนมากหวั่นวิตก ส่วนสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านตรงข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ในฝั่งกัมพูชามีการเสริมทหารกัมพูชา เข้ามาในพื้นที่ โดยเฉพาะด้านตรงข้ามบ้านปลายแหลมหนองเอี่ยน ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว มีการเสริมกำลังทหารกัมพูชา เข้ามากว่า 100 นาย โดยแต่ละคนจะไม่แต่งชุดทหาร แต่แต่งเป็นชุดพลเรือนทั้งหมด ส่วนจนท.ฝ่ายไทยก็ยังคงใช้กำลังของ ฉก.กรม.ทพ.ที่ 12 กกล.บูรพา เจ้าของพื้นที่ดูแลรักษาความเรียบร้อยบริเวณชายแดน โดยไม่มีการเสริมกำลังเข้าพื้นที่แต่อย่างใด





สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://news.sanook.com/politic/politic_289736.php

วันพุธที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2551